เฉพาะอย่างยิ่งหลังการมาของดาวเตะค่าตัวหนึ่งร้อยล้านปอนด์อย่าง แจ็ค กรีลิช บวกด้วยความปราดเปรื่องของผู้จัดการทีมระดับอ๋องอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
แต่พวกพี่ๆ เขากลับเสียหลักพุ่งเข้าชนและวิ่งเข้าใส่ความปราชัยตั้งแต่เกมแรกของฤดูกาลซะอย่างนั้น
สามารถเดิมพันกีฬาในลีกต่างๆได้ที่นี่ คลิก http://bit.ly/2CNiJbP
อืมมมมม...นี่เท่ากับว่า "เดอะ ซิติเซ้นส์" ทำประตูไม่ได้ต่อเนื่องจากฤดูกาลที่แล้วถึง 3 เกมติดต่อกันเข้าให้แล้ว
- แพ้ เชลซี ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
- แพ้ เลสเตอร์ ในศึก คอมมิวนิตี้ ชิลด์
และแพ้ สเปอร์ส ในพรีเมียร์ลีกนัดเปิดฤดูกาล 2021-22
บันทึกว่าผู้ทำประตูสุดท้ายให้ แมนฯ ซิตี้ คือ เซร์คิโอ อเกวโร่ เหตุเกิดในนาทีที่ 76 ของศึกพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้วที่ถล่ม เอฟเวอร์ตัน 5-0 นั่นหมายความว่าเป็นเวลา 284 นาทีเข้าให้แล้วที่ทีมเรือใบสีฟ้าทะลวงประตูคู่แข่งไม่ได้
อย่างไรก็ตาม มันอาจรวดเร็วและบ้าบอเกินไปที่จะบอกว่าพวกเขามีปัญหาในเกมรุก
ฤดูกาล 2020-21 ทีมสีฟ้าแห่งแมนเชสเตอร์กระหน่ำตาข่ายไปถึง 83 ดอก ถือว่ามากที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยไม่จำเป็นต้องมีศูนย์หน้าตัวเป้าแบบถาวรด้วย
สามารถเดิมพันกีฬาในลีกต่างๆได้ที่นี่ คลิก http://bit.ly/2CNiJbP
เมื่อ กุน อเกวโร่ ไม่ได้รับอนุญาตจากอาการบาดเจ็บและสภาพร่างกายให้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่หัวหอก หรือผู้เล่นในตำแหน่งหมายเลข 9 อย่าง กาเบรียล เชซุส ก็ได้ลงบ้าง ไม่ได้ลงบ้าง เพราะฟุตบอลแบบ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เน้นการครอบครองบอลเป็นสำคัญจึงใช้กองหน้าตัวปลอม โดยให้เพลย์เมคเกอร์อย่าง เควิน เดอ บรอยน์ นี่แหละเป็นหลักในตำแหน่งที่พากย์ภาษาอังกฤษว่า False9
บางนัดก็สลับใช้ แบร์นาโด้ ซิลวา หรือ เฟอร์ราน ตอร์เรส ไม่มีปัญหาอะไร
ระบบ 4-3-3 ของ แมนฯ ซิตี้ ตำแหน่งกองหน้าตัวเป้ามักถอยลงมาเล่นเป็นเหมือนมิดฟิลด์อีกคนทำให้รูปเกมของตนเหนือกว่าคู่แข่งแบบเบ็ดเสร็จ ขณะที่มิดฟิลด์ตัวรุกอีก 2 คน จะช่วยกันสอดขึ้นไปผลิตสกอร์แทนกองหน้าตัวหลอก
นั่นคือเหตุผลที่บอกว่าทำไมดาวซัลโวประจำทีม เมื่อฤดูกาลที่แล้วคือมิดฟิลด์ตัวรุกอย่าง อิลคาย กุนโดกัน ที่กดไป 13 ประตูในพรีเมียร์ลีก
รองลงมาคือกองหน้าด้านข้างอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิง ที่จัดไป 10 ดอก
ส่วนกองหน้าขนานแท้อย่าง กาเบรียล เชซุส ยิงได้แค่ 9 ประตู ขณะที่ "กุน" ยิงได้เพียง 4 ประตูเท่านั้น
ประหนึ่งการบรรลุโสดาบันบนฟลอร์หญ้า เพราะ แมนฯ ซิตี้ สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเย้ยหยัน โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งกองหน้าประเภทดาวถล่มประตูประจำทีม
แน่นอนว่ามันต้องอาศัยความเข้าใจในระบบการเล่น รวมถึงทีมเวิร์คที่สูงมาก
ฤดูกาลที่แล้วจึงมีผู้เล่นที่แตกต่างกันถึง 16 คนทำประตูในพรีเมียร์ลีกได้แบบไม่ต้องยึดติด และไม่ผูกขาด ไม่ว่าใครถูกส่งลงไปสับตีนในสนาม เกมรุกของพวกเขาก็ยังคงดุดันและกะซวกไส้เหมือนเดิม
ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วอีกครั้ง หลังผ่าน 10 นัดแรก แมนฯ ซิตี้ ยังคงเวียนวนอยู่แถวกลางตาราง ด้วยประสบความปราชัยไปแล้ว 2 นัด หลุดเสมออีก 3 นัด ก็ยังอุตส่าห์ทะยานเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งชนิดทิ้งคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่น
นั่นแสดงให้เห็นว่าของแบบนี้ มันต้องดูกันยาวๆ เพียงแค่เกมแรกเกมเดียวเอามาตัดสินอะไรไม่ได้
กระนั้นยังมีจุดที่น่าสังเกตอยู่ 2 ประการ
หนึ่งคือขนาดถล่มตาข่ายได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก แต่หากสังเกตให้ดีๆ คุณจะพบว่า แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่ใช้โอกาสในการทำประตูค่อนข้างสิ้นเปลือง คิดแล้วก็พบว่ามันช่างย้อนแย้งประหนึ่งปัญหาที่ไม่ใช่ปัญหา คือ แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่มักจะยิงทิ้งยิงขว้างแบบไม่เสียดาย แต่กลับเป็นทีมที่ยิงได้เยอะที่สุด
สามารถเดิมพันกีฬาในลีกต่างๆได้ที่นี่ คลิก http://bit.ly/2CNiJbP
ประมาณอาศัยปริมาณในจังหวะจบมากกว่าคุณภาพอีกจุดหนึ่งคือประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก
สถิติระบุว่ามีทีมที่ถูกยัดเยียดความปราชัยให้ตั้งแต่เกมแรกของฤดูกาลแล้วพุ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ตอนจบฤดูกาลเคยบังเกิดขึ้นเพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น
1. แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 1992-93
2. แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 1995-96
3. แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2002-03
ทั้ง 3 ครั้งเกิดขึ้นจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เพียงทีมเดียวซะด้วย
เฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาลแรกที่ลีกสูงสุดของอังกฤษเปลี่ยนชื่อจาก ดิวิชั่น 1 เป็น "พรีเมียร์ชิพ" พลพรรคปีศาจแดงเปิดตัวอย่างน่าละเหี่ยใจดีนักแล
เพราะไม่ใช่แค่พ่ายแพ้ในเกมแรกอย่างเดียว พวกเขาพ่ายแพ้ใน 2 นัดแรก ต่อ เชฟฯ ยูไนเต็ด และเอฟเวอร์ตัน มิเท่านั้นในเกมที่ 3 ของฤดูกาลก็ยังอุตส่าห์ทำได้แค่เสมอกับคู่แข่งอย่าง อิปสวิช จนเก็บได้เพียงแค่แต้มเดียว
ทว่าตอนจบสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ โดยทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง แอสตัน วิลล่า ถึง 10 แต้ม
ครั้งที่ 2 ก็ตอนที่คุณป๋าส่งนักเตะรุ่นคุณหนูจากโรงเรียนลูกกรอกคะนองลงสนามแล้วถูก แอสตัน วิลล่า อัดกลิ้งด้วยสกอร์ 3-1 จนกูรูลูกหนังในตำนานอย่าง อลัน แฮนเซ่น ต้องหล่นวลีคลาสสิก "You can not win anything with kids" หรือ "คุณไม่มีทางคว้าแชมป์ใดด้วยเด็กๆ" เอาไว้นั่นแหละ
ล่าสุดเกิดขึ้นในฤดูกาลที่ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งสุดท้าย เมื่อออกไปโดน เอฟเวอร์ตัน อัด 1-0 ตั้งแต่นัดแรก
แม้นจะออกตัวไม่ค่อยโสภาสักเท่าไหร่ แต่พลพรรคปีศาจแดงจากการทำงานของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ยังเป็นแชมป์ได้สำเร็จ นั่นเพราะฟุตบอลลีกอาศัยระยะเวลาในการเซิ้งแข้งอันยาวนานถึง 8 เดือน เปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอนที่ร่างกายต้องแข็งแรงและรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว
สุดท้ายทีมที่รักษาฟอร์มการเล่นได้สม่ำเสมอที่จะประสบผลสำเร็จ
เพียงแต่มันน่าตกใจมิใช่น้อยตรงที่มันเคยเกิดขึ้นเพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น 3 ครั้งจากพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 29 ฤดูกาลที่ผ่านมา
แถมยังเกิดขึ้นกับทีมเดียวอีกต่างหาก
คิดเป็นเปอร์เซนต์ก็แค่ประมาณ 10% เท่านั้นเอง หากคุณดันแพ้ตั้งแต่นัดแรกแล้วยังคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้สำเร็จ
ถ้าวัดตามหลักคณิตศาสตร์และสถิติของคุณครูเพ็ญศรี หมายความว่า แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกของตัวเองในฤดูกาลนี้แค่ 10% เท่านั้น !!!
อืมมมมม...ลิเวอร์พูล, เชลซี และแมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะถูกใจในสิ่งนี้
บอ.บู๋
CR. SIAMSPORT THANK YOU สามารถเดิมพันกีฬาในลีกต่างๆได้ที่นี่ คลิก http://bit.ly/2CNiJbP
กดเดิมพัน ได้เเล้วที่นี่
สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่าง
มาร่วมสร้างรายได้ไปกับเราสิค่ะ
สามารถดูข่าวสารเพิ่มเติม สมัครได้ที่นี่ http://bit.ly/2CNiJbP
หรือ ผ่านช่องทางไลน์ https://lin.ee/mDQofMF
สามารถติดตามอัพเดทข้อมูลได้ที่ไลน์ตลอด24ชั่วโมง พร้อมทั้งดูตารางบอล ตรวจสอบบอลวันนี้ เช็กข้อมูลสถิติ บอลคืนนี้ มีคู่ไหนเตะบ้าง ฟุตบอลวันนี้ที่จะลงสนาม หรือดูตารางบอลล่วงหน้า ทั้งตารางบอล พรีเมียร์ลีก, ลาลีกา, เซเรีย อา, บุนเดสลีกา, ฯลฯ เเละอีกมากมาย ผ่านทางหน้าเว็บหรือเเอพพลิเคชั่น 1XBET สะดวกง่ายเพียงปลายนิ้วได้เเล้ววันนี้ !
#ข่าวกีฬา #ทางเข้า1XBET #เว็บเดิมพันพันทิพ #แจกฟรีสปิน #ข่าวกีฬาวันนี้
#พรีเมียร์ลีก #พรีเมียร์ลีกเตะวันไหน #ตารางฟุตบอล #เดิมพันกีฬา #เว็บเดิมพันออนไลน์
โพสต์โดย : เเจกเครดิตฟรี แจกฟรีสปิน ฝากง่าย ถอนสดวก เมื่อ 20 ส.ค. 2564 22:00:13 น. อ่าน 307 ตอบ 0